JAPAN:ผู้ว่า BOJ คนใหม่ระบุจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากต่อไป
โตเกียว--11 เม.ย.--รอยเตอร์
นายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คนใหม่ส่งสัญญาณในวันจันทร์ว่า เขาไม่รีบร้อนที่จะปรับลดการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของบีโอเจ โดยเขากล่าวว่า สิ่งที่เหมาะสมสำหรับบีโอเจคือการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไปในช่วงนี้ เพราะว่าอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังไม่มีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี เขากล่าวเสริมว่า บีโอเจจำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงจากการดำเนินการอย่างล่าช้าเกินไปในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ และถ้อยแถลงนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เขาเปิดรับแนวคิดในการปรับแก้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) ซึ่งเป็นนโยบายของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ อดีตผู้ว่าการบีโอเจที่เพิ่งเกษียณจากตำแหน่งในวันเสาร์ที่ 8 เม.ย.
นายอุเอดะกล่าวในงานแถลงข่าวในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ว่า "ถ้าหากบีโอตระหนักขึ้นมาอย่างฉับพลันว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังจะปรับเข้าสู่ระดับ 2% อย่างมีเสถียรภาพและอย่างยั่งยืน และบีโอเจก็เลยตัดสินใจที่จะปรับนโยบายให้เข้าสู่ภาวะปกติ บีโอเจก็จะมีความจำเป็นต้องปรับนโยบายครั้งใหญ่มากในสถานการณ์เช่นนั้น และการทำเช่นนั้นก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจและตลาดประสบภาวะปั่นป่วนวุ่นวายเป็นอย่างมาก และด้วยเหตุนี้สิ่งที่สำคัญจึงเป็นการตัดสินใจอย่างเหมาะสมและการตัดสินใจเชิงป้องกันล่วงหน้า" ทั้งนี้ เขากล่าวว่า ถึงแม้มีสัญญาณบ่งชี้มากยิ่งขึ้นในช่วงนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะปรับเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% ได้อย่างยั่งยืน บีโอเจก็จำเป็นจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ในการพิจารณาว่า ค่าแรงจะปรับขึ้นต่อไปหรือไม่
นายอุเอดะกล่าวว่า "เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ, ราคา และการเงินในปัจจุบัน สิ่งที่เหมาะสมจึงเป็นการดำเนินนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนต่อไปในช่วงนี้" ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นักลงทุนเคยคาดการณ์กันว่า บีโอเจอาจจะปรับลดการใช้ YCC ในเร็ว ๆ นี้ โดย YCC เป็นนโยบายที่ตั้งเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของญี่ปุ่นไว้ที่ -0.1% และชี้นำอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0% แต่มีเสียงวิจารณ์ว่า YCC ส่งผลให้ตลาดบิดเบือนไปจากความเป็นจริง และสร้างความเสียหายต่ออัตราผลกำไรของธนาคารพาณิชย์
นายชิงโงะ อิเดะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นของสถาบันวิจัย NLI กล่าวว่า "นายอุเอดะส่งสัญญาณว่า ภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ไม่สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ ดังนั้นโอกาสที่บีโอเจจะปรับนโยบายในเดือนเม.ย.จึงปรับลดลงเป็นอย่างมาก" ทั้งนี้ นายอุเอดะกล่าวว่า ถ้าหากบีโอเจมองว่าบีโอเจจะสามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อได้ บีโอเจก็อาจจะมีความจำเป็นต้องปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ "แต่ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น เราก็อาจจะมีความจำเป็นต้องคิดหากรอบการทำงานที่มีความยั่งยืนมากกว่าเดิม โดยเน้นไปที่การจัดการกับผลข้างเคียงที่เกิดจากการผ่อนคลายทางการเงิน"
นายอุเอดะกล่าวว่า เขาตระหนักถึงผลข้างเคียงจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมาเป็นเวลานาน และเขากล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการรับประกันว่า ระบบธนาคารของญี่ปุ่นจะยังคงมีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกด้วยว่า เป็นเรื่องยากที่จะปฏิบัติตามกรอบเวลาในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% และถ้อยแถลงนี้บ่งชี้ว่า เขาจะไม่ทำตามอย่างนายคุโรดะในการมุ่งความสนใจเป็นอย่างมากไปยังการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ นายอุเอดะจะเข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งแรกในฐานะผู้ว่าการบีโอเจในวันที่ 27-28 เม.ย. โดยบีโอเจจะออกรายงานคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายไตรมาสชุดใหม่ในการประชุมครั้งนี้ด้วย และรายงานดังกล่าวจะคาดการณ์แนวโน้มจนถึงปีงบประมาณ 2025--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;